เจอร์เก้นคล็อปป์ ชายผู้เปลี่ยนหงส์แดง จากยักษ์หลับสู่แชมเปี้ยน ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ กุนซือที่คนรักไปทั้งโลก
เจอร์เก้นคล็อปป์ สุดยอดกุนซือชาวเยอรมัน ที่พาลิเวอร์พูลคว้า แชมป์พรีเมียลีก วันนี้เราจะพาทุกคน ไปทำความรู้จัก กับสุดยอดกุนซือ ของทีมหงส์แดง ก่อนที่เขาจะมา คุมลิเวอร์พูล เขาทำอะไรมาก่อน รวมไปถึงย้อนไปดู สุดยอดผลงานของการคุมทีม ตั้งแต่สมัยทีมไมนซ์ 05 ไปจนถึงดอร์ทมุลด์ การพาทีมไปสู่ความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ของลิเวอร์พูลกับการรอคอยมาถึง 30 ปี นับเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ และการเป็นสุดยอดกุนซือ ที่เก่งที่สุดของยุโรป
เจอร์ เก้ น. ค ล็ อป ป์ ประวัติ ไม่ธรรมดา มาทำความรู้จัก เจอร์เก้น คล็อปป์ สุดยอดกุนซือหงส์แดง
เจอร์เก้นคล็อปป์ ยอดคนยอดกุนซือ เป็นชาวเยอรมัน คล็อปป์ สมัยเป็นนักเตะ เคยค้าแข้งในปี 1990-2001 ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ท เจอร์ เก้ น ค ล็ อป ป์ อายุ 34 ปี เจอร์เก้นคล็อปป์ เกิดเมื่อ 16 มิถุนายน 1967 ปัจจุบันอายุ 55 ปี เส้นทางการคุมทีม เริ่มขึ้นในปี 2001เขาได้เข้ามาคุมทีมไมนซ์ 05
สโมรที่คล็อปป์ เคยค้าแข้งมาก่อน เขาเป็นผู้วางแผนการเล่น ใหม่ให้กับทีม เข้ามาแก้ไขแทบทุกอย่าง เพื่อเป้าหมายที่จะให้ทีม ได้เลื่อนชั้นจาก ลีกา 2 เยอรมัน ได้ขึ้นไปเล่นใน บุนเดสลีกา ให้สำเร็จให้ได้
ซึ่งเขาสามารถทำได้ โดยใช้เวลาไม่นาน เพียง 3 ปีเท่านั้น และเขานั้นพาทีม จบอันดับ 3 ของศึกลีกา 2 เยอรมัน และเขายังพาทีม ขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุด ได้สำเร็จ จบการรอคอย อันแสนยาวนานถึง 41 ปี
หลังจากนั้น คล็อปป์ ก็พาทีมขึ้นมาเล่น ในศึกบุนเดสลีกาอีก 7 ปี โดยการทำผลงานที่ดีที่สุด คือการพาทีม ผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก ยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 2005/2006 ก่อนที่ทีมจะร่วงตกชั้นอีกครั้ง แต่เขาก็ยังตัดสินใจ ที่จะคุมทีมต่อไป
เจอร์เก้นคล็อปป์ กับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ของ ดอร์ทมุนด์
หลังจากนั้นก็เกิด การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในปี 2008 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ติดต่อให้ คล็อปป์ ไปคุมทีมสร้างความฮือฮา ให้กับวงการลูกหนัง เยอรมันอย่างมัน นับเป็นก้าวแรก ของการเติบโตแบบก้าวกระโดด ของคล็อปป์เลยก็ว่าได้
เพราะเขานั้นยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ทางผู้บริหาร ดอร์ทมุนด์ ก็เห็นบางอย่างในตัวเขา ว่าเขาสามารถที่จะ พาดอร์ทมุนด์ กลับมาผงาดใน บุนเดสลีก้า ได้อีกครั้ง หลังจากนั้นไม่ได้ เขาได้ตัดสินใจเซ็นสัญญา กับทาง ดอร์ทมุนด์ เดือนพฤษภาคม 2008 ด้วยการเซ็นสัญญา 2 ปี
ซึ่งภายหลังจากที่เขา ได้เข้ามาคุมทีมในฤดูกาลแรก เขาก็ได้ปรับเปลี่ยนตัวนักเตะ และแผนการเล่น รวมไปถึงการวางรูปแบบการเล่นใหม่ จนพาทีมบุกไปชนะ บาเยิร์น มิวนิค ในศึกเดเอฟเบ ซูเปอร์คัพ และยังพาทีม จบอันดับที่ 6 ของตาราง จนในฤดูกาล 2009/2010 ก็ยังทำผลงานได้ดีเยี่ยม และพาทีมจบอันดับ 5 ของตาราง ของฤดูกาลนั้นอีกด้วย
ในฤดูกาล 2010/2011 เป็นปีที่คล็อปป์ พาทีมไปสู่ความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อเขาสามารถนำทีม คว้าแชมป์และเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค และ เลเวอร์คูเซ่น ในการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ได้อย่างยิ่งใหญ่และน่าจนจำ จนทำให้เขานั้นกลายเป็น ผู้จัดการทีม ที่ถูกจับตามอง และเป็นกุนซือ ที่น่าสนใจของวงการลูกหนังทันที ความสำเร็จของ ดอร์ทมุนด์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อฤดูกาล 2011/2012 ก็ได้พาทีมป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ สร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสร
คล็อปป์ คุม ลิเวอร์พูล กับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
หลังจากที่เขาทำผลงานไว้ดีเยี่ยม กับทาง ดอร์ทมุนด์ ก็มีสโมสรในยุโรป ติดต่อเข้ามา หนึ่งในนั้นคือ ลิเวอร์พูลนั้นเอง ซึ่งคล็อปป์ ตัดสินใจเซ็นสัญญา วันที่ 8 ตุลาคม 2015 แทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่ทำผลงานได้ไม่ตรงตามเป้า และเป็นอย่างเช่นเคย
เมื่อคล็อปป์ เข้ามาวางรากฐานใหม่ ๆ เหมือนในสมัยที่เขา คุมดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่การฝึกซ้อม และรูปแบบการเล่น ไปจนถึงตัวนักเตะ ซึ่งผลงานการคุมทีม ในนัดแรกของเขานั้น เขาก็พาทีม บุกไปตีเสมอ สเปอร์ส 0-0 เมื่อ 17 ตุลาคม
และเขาก็พาทีมเก็บชัยชนะนัดแรก ในวันที่ 28 ตุลาคม ด้วยการฟาดแข้งศึกลีกคัพ เอาชนะ บอร์นมัธ 1-0 ส่วนชัยชนะนัดแรก ของพรีเมียร์ลีกนั้น เกิดขึ้นในเกม ที่บุกไปชนะ เชลซี 3-1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
และในฤดูกาล 2018-2019 คล็อปป์ เริ่มรับรู้ถึง ปัญญาและจุดอ่อนของทัม เขาได้ทำการ เดินหน้าหานักเตะหน้าใหม่ อีก 4 คน ได้แก่ ฟาบินโญ่,เซอร์ดาน ชากิรี,อลีสซง เบ็คเกอร์, , นาบี เกอิต้า เขามาในทีม และเดินหน้าคว้าชัย จนนำขึ้นมา เป็นจ่าฝูง
และในการชิงถ้วย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เขาก็พาทีม ทำผลงานได้ดีมาก ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม และรอบน็อกเอาต์ เข้าไปชิงชนะเลิศกับทาง แมนซิตี้ แต่ก็พลาดแชมป์ไป สร้างความเจ็บใจ ให้เขาและทีม จบอันดับสอง ของตาราง
การรอคอย 30 ปี ที่สิ้นสุดลง และในฤดูกาล 2019/2022 เขาได้พาทีมเก็บชัยชนะ แมนซิตี้แบบขาดลอย ทำให้ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก กอดถ้วยรางวัล ที่รอคอยมาถึง 30 ปี กลายเป็นสุดยอดกุนซือของยุโรป ที่ทำผลงานได้ดีเยี่ยม และนอกจากนี้ ยังพาทีม รับถ้วยมาเพิ่มได้อีก 2 รายการ นั้นก็คือฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และพาลิเวอร์พูล กลับมาผงาดได้สำเร็จ
ครั้งหน้าเราจะมาอัปเดตข่าวสาร หรือข่าว ฟุตบอลต่างประเทศ ก็สามารถติดตามพวกเราได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
เรียบเรียงโดย แพรรี่คนสวย